วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

ความต้องการบุคคลากรในด้านบริหารการสาธารณภัย

ความต้องการบุคลากรในด้านบริหารการสาธารณภัย
PERSONAL REQUIREMENT DISASTER MANAGEMENT


บทคัดย่อ
ในประเทศไทยเคยเกิดสาธารณภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายขั้นรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง เช่นสงครามมหาเอเชียบูรพา ( พ.ศ.2484 – 2488 ) ไต้ผุ่นเฮเรียตที่แหลมตะลุมพุก( พศ. 2505 )ไต้ผุ่นเกย์ที่จังหวัดชุมพร( พศ. 2532 โคลนถล่มที่ อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ( พศ. 2531 )สินามิที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน 6 จังหวัด ( พศ.2547 ) อุทกภัยโคลนถล่ม
ภาคเหนีอนที่จังหวัดแพร่ สุโขทัย และอุตรดิตถ์ ( พศ. 2549 ) เพลิงใหม้ชานติก้าผับ ชอยทองหล่อ กรุงเทพมหานคร( พศ. 2552 )และนับแต่มืการปฎิรูประบบราชการเมื่อ พศ.2545 ซึ่งได้มีการจัดตั้ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธราณภัย ขึ้นมารับผิดชอบในด้านนี้โดยตรงและที่ผ่านมาได้มีการประกาศแผนพัฒนาเศรฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ( พ.ศ. 2550 – 2554 ) ซึ่งมีการกล่าวถึงการป้องกันภัยคุกคามจากหลายรูปแบบ และนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2548 ซึ่งกำหนดให้มีการเตรียมพร้อมในทุกภาคส่วน และยังได้มีการพัฒนาแผนแม่บทเพื่อรองรับหลายด้าน ซึ่งพบว่าต้องมีการพัฒนาบุคคลากรเพื่อรองรับภารกิจในหลายด้าน ซึ่งพบว่าต้องมีการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับภารกิจในหลายด้าน งพบวาต้องมีการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับภารกิจในหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้องกับสาธรารณภัย

1. คำนำ
พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 กำหนดให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย( พศ.2550 ) กำหนดให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานของรัฐ ในการดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศซึ่งงการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ตอบสนองภารกิจโดนการจัดทำแผนแม่บทด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่เกิดจากธรรมชาติ และเกิดจากการกระทำของมนุษย์หลายฉบับ และจัดให้มีศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ศูนย์ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 75 จังหวัด นอกจากนี้ ยังจัดตั้งวิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี และมีวิทยาเขตอีก 6 แห่งทั่งประเทศ สำหรับในส่วนราชการและระฐวืสาหกิจอื่น ก็ได้มีการพัฒนาหน่วยงานและองค์ความรู้ให้เหมาะสมกับภารกิจของตนเอง เช่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมควบคุมมลพิษกรมโรงงานอุตาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมควบคุมโรค สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกรมธุรกิจพลังงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรุงเทพมหานคร ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในสังกัดกระทรวงกลาโหม การไฟฟ้าฝ่ายผลิต บริษัท ปตท. จำกัด ( มหาชน ) เป็นต้น

2. ความสำคัญของปัญหา
อย่างไรก็ดีในภาระกิจประเภทวิชาการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังคงต้องอาศัยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญลคณะกรรมการและคณะทำงานจากายนอก ทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือโดยเฉพาะการจัดทำแผนหลักต่างๆ ดังนี้

- แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย
- แผนแม่บทการพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ ( พ.ศ. 2549 -2559)
- แผนปฎิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการระดับกระทรวง
- แผนแม่บทการป้องกันและให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก อุทุกภัย วาตภัย และโคลนถล่ม ( ระยะ 5 ปี )
- แผนปฎิบัติการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติในเชิงยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2552- 2561
ซึ่งในตัละครั้งจะต้องใช้งบประมาณและใช้เวลามาก นอกจากนี้ในส่วนขององศ์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ประสบปัญหาในด้านการวิเคาระห์นโยบายและแผนเพื่อนำข้อมูลมาจัดทำแผนที่เหมาะสมกับท้องถิ่นเช่นเดี่ยวกัน โดยเฉพาะในปัจจุบันการใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการปฎิบัติการตอบโต้ ( Response ) กับสาธารณภัยที่เกิดขึ้นให้ได้อย่างทันท่วงที และในการบริหารจัดการสาธารณภัย ก็มีความจำเป็นที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจักการในภาวะฉุกเฉิน รวมไปถึงตอบสนองต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ประสบภัย ซึ่งในด้านผู้ปฎิบัติงานภาคสนามจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ในการที่จะใช้อุปกรณ์สมัยใหม่ที่มีความสลับซับซ้อนเพื่อให้เกิดประสิทธในการปฎิบัติงานในช่วงสถานการณ์วิกฤตและความปลอดภัยของทั้งผู้ประสบภัยและผู้ปฎิบัติงานเอง
ปัจจุบัน บุคลากรของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาจากผู้ที่มีคุณวุฒิหลากหลายสาขาและมีการพัฒนาเพิ่มพูนความรู้อย่างต่อเนื่องทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถดำเนินภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านวิชาการและปฎิบัติการ นอกจากนี้ในแผนแม่บทการพัฒนความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ (พ.ศ.2539 – 2559 ) ของกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เสนอแนวทางในการศึกษา ( Education ) คือการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรการให้การศึกษา การฝึกอบรม การให้คำแนะนำแก่ผู้เกี่ยวข้องให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอัคคีภัยไว้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกระบวนการป้องกันอัคคีภัย เพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยของประเทศไทยด้วย
จากาการที่มีการประกาศนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2548 ของสำนักงานสภาความมั่งคงแห่งชาติ ซึ่งกำหนดให้มีการเตรียมพร้อมในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและวิกฤตใกทุกๆด้าน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการและให้การสนนัยสนุนการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการให้กับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีอยู่ 17 ด้าน ได้แก่
1. ด้านการแจ้งเตือนภัย
2. ด้านต่างประเทศ
3. ด้านพิสูจน์เอกลักษณ์
4. ด้านฐานข้อมูลและสารสนเทศ
5. ด้านการศึกษา
6. ด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ
7. ด้านการบริจาค
8. ด้านการพื้นฟู
9. ด้านนิวเคลียร์และรังสี
10. ด้านความั่นคง
11. ด้านการเกษตร
12. ด้ารคมนาคม
13. ด้านน้ำ
14. ด้านการสื่อสาร
15. ด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน
16. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
17. ด้านการประชาสัมพันธ์
ประกอบกับกระทรวงกลาโหมโดยกรมสรรพกำลังกลาโหม ได้จัดทำแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ เพื่อรองรับนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ทุกภาคมีส่วนร่วมในการผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรับมือจากภัยคุกคามทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างประสานสอดคล้องและเป็นระบบให้พร้อมที่จะสนับสนุนการปฏิบัติการป้องกันประเทศของฝ่ายทหารได้ตั้งแต่ภาวะปกติ โดยให้ทุกภาคส่วนสนับสนุนฝ่ายทหารในการป้องกันประเทศอย่างเต็มขีดความสามารถตามแผนที่ฝ่ายทหารกำหนดหรือตามที่ฝ่ายทหารร้องขอ ซึ่งตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อป้องกันประเทศได้กำหนดให้มีการผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศได้กำหนดให้มีการผนึกกำลังจากฝ่ายพลเรือนใน 9 ด้าน เพื่อรองรับสถานะการณ์ที่ไม่ปกติ โดยมอบหมายให้มีการประสานจากฝ่ายพลเรือน ดังนี้
1. ด้านอาหาร
2. ด้านการคมนาคม
3. ด้านน้ำ
4. ด้านการสื่อสาร
5. ด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน
6. ด้านกำลังคน
7. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
8. ด้านอุตสาหกรรมและปัจจัยการผลิต
9. ด้านการประชาสัมพันธ์
โดยจะเห็นได้ว่าภัยคุกคามจากสาธารณภัย รวมถึงภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย ทำให้ต้องมีการพัฒนาเชิงรุกในด้านองค์ความรู้และจัดเตรียมบุคคากรรองรับด้านสาธารณภัยไว้ในภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง

3.สรุป
ในปัจจุบันจะพบว่ามีการเรียนการสอนในด้านวิศวกรรมความปลอดภัยวิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย อาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม และยังมีองค์กรเอกชน คือ คณะอนุกรรมการวิศวกรรมความปลอดภัยของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ ที่ได้พยายามศึกษาและเผยแพร่องค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมถึงสาธารณภัยในทุกด้าน นอกจากการที่วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร และสถาบันฝึกอบรมของเอกชนท่สามารถฝึกบุคคลากรในด้านภัยพิบัติต่างๆ ได้ในระดับหนึ่งแล้ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่วนราชการและวิสาหกิจ ยังคงมีความต้องการบุคคลากรที่มีองค์ความรู้ด้านวิชาการด้านธารณภัยในระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามให้ได้อย่างสมบรูณ์ครบถ้วน โดยเฉพาะความต้องการองค์ความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ และการบริหารจัดการสาธารณภัย และสามารถพัฒนาองค์ความรู้ต่อยอดให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพ และสภาพเศษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของแต่ละท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งกิจกรรมในองค์กรต่างๆ ซึ่งสถาบันการศึกษาควรพิจารณาจัดตั้งสาขาวิชาในด้านการบริหารจัดการสาธารณภัยเพื่อทดแทนการส่งบุคคลากรไปศึกษาต่างประเทศ หรือมีโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการสาธารณภัยแก่บุคคลากรในประเทศไทยต่อไป

4.กิตติกรรมประกาศ
ผู้เขียนบทความนี้ขอขอบคุณวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้โอกาสในการเผยแพร่บทความฉบับนี้ แลพขอขอบคุณผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และนักวิชาการอีกหลายหน่วยงานที่ได้ให้ข้อมูลเพื่อจัดทำบทความ และขอขอบคุณนักวิชาการทุกท่านที่ได้พยายามวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ในด้านสาธารณภัย เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงปลอดภัยจากสาธารณภัยอย่างยั่งยืนสืบไป

เอกสารอ้างอิง
กองประวัติศาสตร์และพิพิทธภัณฑ์ทหาร, สงครามมหาเอเซียบูรพา,
http://data.schq.mi.th/~afed/history_www/bbb1-3.htm ,2552
กรมประชาสัมพันธ์, วาตภัย ,http://thaimews.prd.go.th/naturaldisasters/index.php?option=com_content&task=view&id=3<emid=6,2552
http://th.wikipedia.org/wiki/
พิมลพรรณ อิศรภักดี,สึนามิ:การตายและบาดแผลจากพื้นที่,
http://www.ipsr.mahidol.ac.th/content/Home/Conferencell/Article/Article06.htm
http://codi.or.th/ index.php?option=com_content&task=view&id=3<emid=889& ltemid=95
http://news.impaqmsn. Com/articles_hn.aspx?id=24157&ch=hn
ราชกิจานุเบกษา,กฏกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระมหาดไทย พ.ศ. 2545, 2545
ราชกิจานุเบกษา,แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550, 2554, 2549
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ,นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2550, 2554
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ,นโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2548
ราชกิจานุเบกษา, พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550,

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น